แคลเซียม นั้นมีความสำคัญต่อการเสริมสร้างบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ซึ่งตัวแคลเซียมนั้นถือว่าเป็นส่วนช่วยสำคัญที่จะทำให้ร่างกายของลูกน้อยนั้นเจริญเติบโตได้ดี ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ จึงควรใส่ใจในเรื่องของโภชนาการอาหาร ในการบำรุงกระดูกของลูกน้อย ให้ลูกได้รับปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างในแต่ละช่วงวัย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับแคลเซียมกันค่ะ ว่าแคลเซียมมีความสำคัญอย่างไร และแต่ละช่วงวัยต้องทานแคลเซียมในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะดีต่อร่างกาย มาตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
ทำความรู้จัก แคลเซียม
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน แคลเซียมถือเป็นสารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายเกือบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น ระบบประสาท, กล้ามเนื้อ, ควบคุมอัตราการเต้นปกติของหัวใจ ซึ่งในร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนหลายชนิดขึ้นมา เพื่อที่จะควบคุมสมดุลแคลเซียม เพื่อให้ร่างกายไม่ได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ เพื่อที่แคลเซียมจะได้ถูกนำไปให้เซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ ใช้ต่อไป
แคลเซียม สำหรับเด็ก สำคัญอย่างไร
แคลเซียมถือเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นวัยที่กำลังจะเจริญเติบโต ทำให้แคลเซียมนั้นเป็นส่วนสำคัญในการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ดังนั้นแคลเซียมจึงมีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก และกระดูกก็เป็นส่วนที่สะสมแคลเซียมไว้มาก หากไม่มีการสะสมเพิ่มเติม อาจส่งผลให้ความแข็งแรงของกระดูกอ่อนแอและเปราะบางลงได้ นั่นอาจส่งผลต่อโรคกระดูกพรุนได้เมื่อลูกโตขึ้น ดังนั้นแล้วคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องดูแลให้ลูกน้อยได้รับปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอต่อร่างกาย และสารอาหารอื่น ๆ ที่เหมาะสมสำหรับวัยของลูกน้อย
ปริมาณการทาน แคลเซียม ของแต่ละช่วงวัย
- เด็กอายุไม่เกิน 3 ปี : 400 – 800 มิลลิกรัมต่อวัน
- เด็กอายุ 4 – 6 ปี : 800 มิลลิกรัมต่อวัน
- เด็กอายุ 7 – 10 ปี : 800 มิลลิกรัมต่อวัน
- วัยรุ่นและผู้ใหญ่ : 800 – 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน
- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร : 1,200 มิลลิกรัม
บทความที่เกี่ยวข้อง : แคลเซียมแม่ท้อง สารอาหารที่ร่างกายคุณแม่ผลิตเองไม่ได้
อาหารที่มี แคลเซียม สำหรับเด็ก
- โยเกิร์ต : โยเกิร์ตนั้นอุดมไปด้วยแคลเซียม ที่จะช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน แถมยังมีกรดแล็กติกในโยเกิร์ต ที่จะช่วยการปกป้องเหงือกและฟันจากการสึกหรอ สามารถทานโยเกิร์ต 1 ถ้วยเล็กต่อ 1 วัน แนะนำให้เลือกทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติจะดีที่สุด
- ชีส : ชีสเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ซึ่งในชีสจะอุดมไปด้วยแคลเซียมสูงไม่ต่างจากนม ดังนั้นการทานชีสในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกาย ช่วยเสริมสร้างกระดูกและลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี ชีสจึงถือเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับเด็กวัยกำลังเจริญเติบโต
- เมล็ดอัลมอนด์ : ถั่วยอดนิยมสำหรับคนทุกวัย เรียกได้ว่าเป็นอาหารทานเล่นที่มีแคลเซียม และอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ มากมาย ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ วันละไม่เกิน 1 กำมือ หรือประมาณ 24 เมล็ด จะดีที่สุด
- บรอกโคลี : บรอกโคลีนั้นอุดมไปด้วยแคลเซียมสูง และสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ที่จะช่วยบำรุงกระดูก และฟันให้แข็งแรง และป้องกันโรคกระดูกพรุน
- เต้าหู้ : เต้าหู้นั้นถือว่าเป็นอาหารทานง่าย และเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงได้ เมนูที่แนะนำที่ทำทานได้ง่าย ๆ ก็จะมี เต้าหู้ทรงเครื่อง, แกงจืดเต้าหู้ และน้ำเต้าหู้ เป็นต้น
- เมล็ดงา : เมล็ดงานั้นอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแร่ธาตุ หรือวิตามิน ที่มีส่วนช่วยลดอาการอักเสบ และยังมีแคลเซียมสูง ที่จะช่วยให้กระดูกแข็งแรง สามารถทำทานแบบนำมาป่นให้ละเอียด แล้วนำไปคลุกกับอาหาร หรือจะดื่มเป็นน้ำนมงา เป็นต้น
- ผักคะน้า : ผักคะน้านั้นสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ซึ่งอุดมไปด้วย แคลเซียม และแร่ธาตุที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงได้ สามารถนำคะน้ามาลวกให้พอนิ่ม และนำไปผัดกับน้ำมันหอยให้ลูกทานได้
- นมวัว : นมวัวนั้นเป็นนมที่ดีต่อทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งในนมวัวจะมีปริมาณแคลเซียมสูงถึง 204.67 มิลลิลิตร ต่อนมวัว 200 มิลลิลิตร แนะนำให้เลือกดื่มนมรสจืดจะดีที่สุด
สามารถทานแคลเซียมเสริมเพิ่มได้ไหม ?
โดยทั่วไปสำหรับทุกช่วงอายุ จะได้รับแคลเซียมจากอาหารเป็นหลัก แต่ถ้าหากได้รับไม่เพียงพอหรือมีความเสี่ยงที่จะขาดแคลเซียมในแต่ละวัน สามารถพิจารณาให้ทานแคลเซียมแบบเม็ดเสริมได้ แต่ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกร ก่อนที่จะทาน เนื่องจากการรับประทานแคลเซียมของแต่ละช่วงวัยจะได้รับในปริมาณที่ไม่เท่ากัน
ทานแคลเซียมมากเกินไปอันตรายไหม ?
แม้การทานแคลเซียมจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเด็ก แต่ถ้าหากทานแคลเซียมในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจส่งผลทำให้เกิดโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ, หินปูนในหลอดเลือด, หลอดเลือดตีบตัน หรืออาจมีอาการท้องผูก ดังนั้นแล้วคุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกน้อยทานแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมของแต่ละช่วงวัยจะดีที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิตามิน สำหรับเด็ก จำเป็นอย่างไร เด็กต้องกินวิตามินเสริมไหม?
แคลเซียมถือเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับลูกน้อย ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน และระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตแข็งแรงสมวัย และนอกจากจะทานอาหารที่มีแคลเซียม ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว ก็อย่าลืมทานอาหารที่มีเหล่าวิตามินดีควบคู่ไปด้วยนะคะ เพราะวิตามินดีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เปิดสูตร! เมนูเต้าหู้ อร่อยทำง่าย ไม่มีเบื่อ สำหรับลูกน้อย
5 เมนูข้าว สำหรับลูกน้อย อร่อย หลากหลาย ได้คุณค่าทางโภชนาการ
รวม 5 เมนู ข้าวบด สำหรับลูกน้อย ทำง่าย ได้ประโยชน์เพียบ!